เล่าถึงการเดินทางต่อไปของเราจนถึงเมืองมาสุลีปาตัน

เขียนโดยบาทหลวง ฌอง เดอ บูรช์ (Jean de Bourges)

 

เรามาถึงเมืองมาสุลีปาตัน เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ละติจูด ๑๖ํ และเป็นท่าเรือแห่งหนึ่งบนชายฝั่งโคโรแมนเดล เราต้องข้ามสะพานไม้ยาวหนึ่งไมล์ซึ่งทำนุบำรุงไว้อย่างดีเยี่ยม  มีบันไดเล็กๆ ตรงช่องว่างจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งสำหรับเดินลงข้างล่างได้ เราไม่อาจไปถึงเมืองมาสุลีปาตันได้ หากไม่มีสะพานไม้นี้ เนื่องจากเมื่อน้ำทะเลขึ้น น้ำจะท่วมทั่วทั้งบริเวณเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นหนองบึง คนรับใช้คนหนึ่งของเราเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเพื่อหาบ้านเช่า เขาได้พูดคุยกับศัลยแพทย์ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่บริษัทของฮอลันดา แพทย์ผู้นี้ได้ส่งคนรับใช้ชาวฮอลันดามาพบเราที่ประตูเมือง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ทำให้มีผู้คิดว่าเราเป็นชาวฮอลันดา เนื่องจากชาวอังกฤษและฮอลันดา ไม่ต้องจ่ายภาษีสินค้าที่นำเข้ามา เพราะมีการตกลงเงื่อนไขกับกษัตริย์ของอาณาจักรกอลกอนดาแล้ว เราจึงผ่านด่านขนอนเข้ามาโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย เมืองนี้เป็นเมืองท่าสำคัญของอาณาจักรที่ซึ่งเรามีโอกาสได้พบกับชาวฝรั่งเศสหลายคน อย่างไรก็ตามเราไม่ได้รับความสะดวกมากมายนัก เพราะถ้าพูดให้ถูกต้องแล้วเมืองนี้ไม่มีท่าจอดเรือ แต่มีเพียงหาดหรืออ่าวเล็กๆ ที่พวกเรือต่างๆ สามารถเข้ามาทอดสมอได้เท่านั้น ซึ่งก็อยู่ห่างจากตัวเมืองโดยใช้เวลาเดินทางมากกว่า ๔ ชั่วโมง นอกจากนั้นถ้าไม่รีบนำเรือออกแต่เช้าตรู่โดยอาศัยกระแสลมดีพัดมาออกจากฝั่ง และน้ำทะเลที่ขึ้นเต็มที่แล้ว เราจะไม่สามารถเอาสินค้าลงเรือได้เลย แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าหากมีลมพัดแรงและท้องทะเลปั่นป่วนท้องเรือที่บรรทุกของหนักจะไม่ติดพื้นทราย และถ้าบริเวณนั้นมีก้อนหินอยู่ เรือก็อาจเสี่ยงกับการอัปปางลงได้ เมืองนี้มีหนองและบึงอยู่โดยรอบ กำแพงเมืองจึงไม่มีประโยชน์อันใดเลย ภายในตัวเมืองมีบ้านเรือนหลังเล็กๆ แออัดอยู่เต็มไปหมด ถนนสายต่างๆ แคบและคดเคี้ยว ย่านที่ชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นย่านที่ร่ำรวยที่สุด มีบ้านหลังใหญ่ๆ สร้างอย่างดีและมีถนนหลายสายสวยงามมาก นับว่าเมืองมาสุลีปาตันเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นและมั่งคั่ง เนื่องจากมีการแข่งขันการค้ากันในหมู่พอค้าที่อาศัยอยู่กระจัดกระจายตามมุมเมือง ชาวอังกฤษและฮอลันดามีโรงงานใหญ่ๆ หรือสำนักงานการค้าอยู่ที่นี่ แต่ชาวต่างชาติเหล่านี้ปรับตัวให้เข้ากับอากาศแถบนี้ได้ยากและแทบล้มตายกันเกือบทั้งหมด เนื่องจากเกิดอาการท้องร่วงอย่างแรง เพราะน้ำสกปรกที่ดื่มเข้าไป เป็นความจริงว่าที่นั่นมีเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ คือเหล้าผลไม้ เช่นเหล้าที่ชาวพื้นเมืองทำจากต้นปาล์มบางพันธุ์ที่ไม่มีลูก โดยตัดกิ่งไม้ลำต้นหรือกรีดเปลือกให้น้ำสีขาวมีฟองคล้ายฟองเบียร์ไหลออกมาในการรองรับน้ำนี้ พวกเขาจะผูกกระบอกดินเผาไว้ที่ปลายกิ่งหรือที่รอยกรีด ทุกๆ เช้าจะมีการเก็บน้ำปาล์มนี้ แล้วนำไปขายทันที เพราะถ้าเก็บไว้หนึ่งวันจะเสียหรือมีรสเปรี้ยว ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องขายไปในราคาที่ถูก น้ำเหล้าชนิดนี้เรียกว่า ตารี (Tari) ซูร์ (Sur)  ซึ่งสามารถใช้เป็นเชื้อทำให้แป้งขึ้นฟูแทนผงฟูของเราได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่ทำจากต้นปาล์มอีกพันธุ์หนึ่งที่ให้ผลซึ่งเรียกว่า โค๊ก (Cok) หรือ โกโก (Coko) เมื่อผลยังสดและนิ่ม    ชาวโปรตุเกสเรียกว่า แล๊กนาส (Lagnas) ภายในมีน้ำสีขาวรสหวานแต่ต้องคุ้นเคยกับเหล้าผลไม้ทุกชนิดก่อน ข้าพเจ้าเชื่อว่าเหล้าดีที่สุดของที่นี่ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้ไม่ดีเท่าน้ำในแม่น้ำแซน ในปีหนึ่งๆ อากาศจะร้อนจัดถึง ๔ เดือน และมีช่วงเวลา ๑๐ ถึง ๑๒ วัน ที่อากาศร้อนจนสุดทนทานได้ อันเนื่องจากความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ เราเกือบวางมือลงบนฝาบ้านไม่ได้นาน ซึ่งฝาบ้านเป็นเพียงแผ่นไม้กระดานธรรมดา ซึ่งแสงอาทิตย์ผ่านเข้ามาได้ โดยเฉพาะภายในห้องนอนจะร้อนระอุพอๆ กับภายนอก จะไม่มีลมพัด เพราะอากาศร้อนจัดจนรู้สึกอึดอัด ระหว่างนี้เราทำอะไรอย่างอื่นไม่ไม้เลยนอกจากเก็บตัวอยู่ในที่กำบัง ภายในบ้านที่เราต้องสาดน้ำไปรอบๆ มุมบ้านที่อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ฝาบ้านชุ่มชื้นและลดความร้อนลงบ้าง ลักษณะเช่นนี้จะกินเวลาอยู่ประมาณ ๘ ชั่วโมง ในแต่ละวัน คือ ก่อนและหลังเที่ยงวัน เมือถึงเดือนพฤษภาคม ราวกับว่าพระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้พวกพ่อค้าร่ำรวยมากยิ่งขึ้น สมกับที่พวกเขาใฝ่หาและต้องต่อสู้กับความร้อนระอุของอากาศ เพราะเห็นได้ง่ายว่าบริเวณที่ชาวยุโรปชอบไปทำการค้ามากที่สุดเป็นที่ๆ มีอากาศร้อนมากจนสุดจะทนได้ เช่น เมืองมาสุลีปาตัน บัฟฟอรา โคโมรอน ออร์มุส มาเซตี เป็นต้น

พื้นดินในเมืองนี้อุดมสมบูรณ์ดี มีการปลูกพืชนานาชนิดถึง ๒ หรือ ๓ ครั้งต่อปี ชาวพื้นเมืองพอใจกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพียงเพื่อมีที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่มห่มและอาหาร เมืองนี้ร่ำรวยด้วยอาหารการกินและมีราคาถูก สิ่งนี้เองที่ทำให้พวกเขาเกียจคร้านเนื่องจากมั่นใจในความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดิน พวกเขารู้สึกเดือดร้อนเล็กน้อยก็ต่อเมือฝนไม่ตกตามฤดูกาล บ่อยครั้งที่บรรดาพ่อแม่ต้องฝืนใจชายลูกของตนไปเพื่อให้ตนยังชีพอยู่ได้ ส่วนใหญ่พวกเขาจะไม่ขายลูกให้กับคนชาติเดียวกัน แต่ขายให้กับคนต่างชาติ ซึ่งมักจะฉวยโอกาสแลกเปลี่ยนด้วยข้าวเจ้า ข้าวสาลี หรือที่พบบ่อยๆ คือ เงินเพียง ๑ หรือ ๒ เอกู กับเด็กหลายๆ คน

มีผู้ให้ความเห็นอย่างหนึ่งแก่เรา ซึ่งข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย คือ หลายคนแนะนำให้เรานำเงินลงทุนร่วมกับพ่อค้าบางคนที่เดินทางจากเมืองมาสุลีปาตันไปตะนาวศรีโดยรับประกันว่า เราจะได้กำไรถึง ๓๕ % และจะได้รับเงินทุนคืนพร้อมกำไรในทันทีที่เราไปถึงเมืองตะนาวศรี ข้าพเจ้าจะไม่วิเคราะห์ว่าในเมืองนี้ธุรกิจการค้าแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ แต่จะเตือนเพียงว่าเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนที่จะได้เงินทุนคืนพร้อมกำไรมากมายตามที่พวกเขามักโอ้อวด กับผู้ที่มาใหม่ให้ประหลาดใจเล่น เพราะเมื่อมาถึงเมืองตะนาวศรีแล้ว เราได้ทราบว่าผู้ที่ทำการค้ากับบรรดาพ่อค้าเหล่านี้มีฐานะยากจนมาก แม้พวกเขาจะพยายามสร้างความเชื่อถือให้เราเห็นก็ตาม ดังนั้น เรายอมลงทุนตามที่พวกเขาแนะนำ เราจะต้องหวนกลับไปเมืองตะนาวศรี เพื่อติดตามทวงเงินทุนของเราคืนอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรหลงใหลกับคำมั่นสัญญาเรื่องกำไรมหาศาลนั้น เพราะไม่สมควรสำหรับนักบวชที่จะรับผลกำไร ที่ได้มาโดยไม่ถูกต้องหรือโดยวิธีการที่อาจไม่บริสุทธิ์หรือเหมาะสมต่อความศักดิ์สิทธิ์ของสถานะนักบวช ระหว่างพำนักอยู่ที่เมืองมาสุลีปาตันเราได้ทราบเรื่องกิจการของพระศาสนาในอาณาจักรพุกามได้อย่างถูกต้อง ว่าเราไม่สามารถเดินทางไปประเทศจีนได้จากเมืองนี้ ทุกคนที่เคยอาศัยอยู่ที่เมืองอังวะ เมืองหลวงของอาณาจักรพุกามบอกกับเราว่า แม้กษัตริย์จะทรงบูชาเทวรูป แต่พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้เราประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ แม้บรรดาพระสงฆ์และผู้ที่บูชาเทวรูปต่างรับฟังการยอมทนรับทุกข์ทรมานเพื่อการไถ่บาปของมนุษย์ ของพระเยซูเจ้าด้วยความยินดี คงเหลือเพียงเรื่องการส่งผู้ที่เหมาะสมเข้ามาเพื่อประกาศพระศาสนาของพระเป็นเจ้าและการหลุดพ้นของเพื่อนมนุษย์ สำหรับเส้นทางจากเมืองอังวะมาประเทศจีนนั้น เราต้องใช้เวลาเดินทาง ๒๐ วัน แน่นอนและเป็นความจริงที่ว่า ขณะที่อยู่ที่เมืองมาสุลีปาตันนั้น เราไม่สามารถใช้เส้นทางสายนี้ได้เนื่องจากมีคำสั่งด่วน ห้ามจากกษัตริย์ของอาณาจักรพุกามด้วยพระองค์ทรงเกรงว่า เมื่อเข้าครอบครองประเทศจีนแล้ว พวกตาตาร์ (Tartare) จะใช้เส้นทางนี้เข้าโจมตีอาณาจักรของพระองค์ ดังนั้นในช่วงปีสุดท้ายนี้ คณะมิชชันนารี และบรรดานักเดินทางจึงถูกขัดขวางมิให้ใช้เส้นทางนี้ซึ่งสะดวกมาก หากต้องการเข้ามายังปริมณฑลทางตะวันตกของจีนจากเมืองมาสุลีปาตัน หรือจากท่าเรือทุกแห่งแถบชายฝั่งโคโรแมนเดล แต่คำสั่งห้ามนี้เป็นเพียงการป้องกันไว้ล่วงหน้าเท่านั้น จึงมีท่าทีว่าจะไม่ยั่งยืนตลอดไป สิ่งที่ยืนยันความจริงข้อนี้คือ ในเมืองอังวะมีครอบครัว ชาวจีนที่เดินทางจากประเทศจีนเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก.