พระสังฆราช ยอแซฟ บรรจง อารีพรรค

 
 
ชีวิตในวัยเด็ก
พระสังฆราชยอแซฟ บรรจง อารีพรรค  เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ.1927 เป็นบุตรคนที่ 8 ในจำนวนพี่น้อง 13 คน บิดาชื่อ อาจ มารดาชื่อ ฮวา  อารีพรรค  ท่านมีพี่น้องเป็นซิสเตอร์อีก 3 คน 
 
การศึกษา
ท่านรับการศึกษาระดับชั้นประถมปีที่1– 4 ที่โรงเรียนมารียาลัย ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมารดาพิทักษ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนของอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี แล้วจึงเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดจันทบุรี จนกระทั่ง จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นแล้วได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์ กรุงเทพฯ แต่เรียนได้เพียง 3 เดือน เกิดวิกฤติการณ์อันเนื่องจากสงคราม ท่านจึงกลับไปเป็นครูสอนเรียนที่โรงเรียนบ้านเกิดอยู่ประมาณ 6 เดือน 
 
 
เข้าบ้านเณรสามเณราลัยพระหฤทัย ศรีราชา
ในปี ค.ศ.1945  ท่านสมัครเข้าสามเณราลัยพระหฤทัยศรีราชา เพื่อเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์ ท่านได้รับการฝึกอบรมและศึกษาภาษาลาติน ฝรั่งเศส และทำหน้าที่สอนเรียนด้วย ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นครูเณร  ในสมัยของพระสังฆราชมีแชล อ่อน ประคองจิต ซึ่งเป็นอธิการบ้านเณร ท่านใช้เวลาเตรียมตัว  อยู่ที่สามเณราลัยพระหฤทัยศรีราชาเป็นเวลา 4 ปีกว่า จึงได้ไปศึกษาต่อที่สามเณราลัยใหญ่ ปรอปากันดา ฟีเด   กรุงโรมในปี ค.ศ.1950  จนได้รับปริญญาโททางปรัชญาและเทวศาสตร์ วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.1956 ท่านได้รับศีลบรรพชาเป็นพระสงฆ์ที่กรุงโรม และกลับเมืองไทยในปี ค.ศ.1957   
 
 
หน้าที่รับผิดชอบ
- ปี ค.ศ. 1957  เดินทางกลับประเทศไทย ท่านได้เริ่มงานชิ้นแรกที่ได้รับมอบหมาย คือ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนักบุญฟิลิปและยากอบหัวไผ่ ในเวลาเดียวกันก็เริ่มงานตั้งโรงเรียน บราเดอร์ คณะฟรังซิสเซเวียร์  ในสังฆมณฑลจันทบุรี และทำหน้าที่นี้อยู่ถึง 7 ปี 
 
- ปี ค.ศ.1964 ท่านเดินทางไปศึกษาต่อทางวิชาครูที่ประเทศออสเตรเลีย รัฐนิวเซาท์เวลส์ นครซิดนีย์ เมื่อจบหลักสูตรแล้วท่านยังคงฝึกงานต่อที่รัฐวิคตอเรีย นครเมลเบิรน์อีก 3 เดือน จึงเดินทางกลับประเทศไทยในปี ค.ศ.1965 
 
- ปี ค.ศ. 1966 กลับมาแล้วท่านก็ได้รับมอบหมายหน้าที่เป็นอธิการสามเณราลัยพระหฤทัยศรีราชา จนถึง ปี ค.ศ.1969  ท่านก็ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล เป็นเวลา 6 เดือน  
 
- ปี ค.ศ. 1970 ท่านได้รับหน้าที่เป็นอาจารย์ที่สามเณราลัยใหญ่ ปีนัง เป็นเวลา 1 ปี  สอนวิชาจิตวิทยา 
 
 
- ปี ค.ศ. 1971 ท่านได้กลับมาพักที่สามเณราลัยนักบุญยอแซฟ สามพราน เพื่อช่วยคุณพ่อฮั้วเซี้ยง กิจบุญชู (พระคาร์ดินัลไมเกิ้ลมีชัย กิจบุญชู ในปัจจุบัน) ซึ่งขณะนั้นเป็นอธิการสามเณราลัยนักบุญยอแซฟ และท่านยังต้องเตรียมการก่อสร้างสามเณราลัยใหญ่
 
ปี ค.ศ.1972  ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิการสามเณราลัยใหญ่ ลุกซ์ มุนดี ซึ่งเปิดชั่วคราวที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 2 เทอม เมื่อสามเณราลัยใหญ่ที่สามพรานสร้างเสร็จในบางส่วนแล้ว จึงย้ายมาเป็นอธิการที่สามเณราลัยใหญ่ สามพราน 
 
จนกระทั่ง ท่านได้รับแต่งตั้งจากองค์สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ให้เป็นพระสังฆราช แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์แทน พระสังฆราชมาเรีย มีแชล ลังเยร์ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ.1976  และได้รับการอภิเษกในวันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ.1976  เวลา 10.00 น.  ณ อาสนวิหารนักบุญอันนา นครสวรรค์  โดยมี พระอัครสังฆราช ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นผู้อภิเษก
 
 
คติพจน์ประจำสมณสมัย    
 
“UBI CARITAS ET AMOR DEUS IBI EST”  “ ที่ไหนมีรักที่นั่นมีพระเจ้า”
 
นอกจากเป็นประมุขของสังฆมณฑลนครสวรรค์แล้ว ในสภาพระสังฆราช ท่านยังเป็นประธานกรรมการสภาฆราวาสแพร่ธรรม ประธานกรรมการ การแพร่ธรรมและกระแสเรียก
 
ยามที่ท่านว่าง ท่านชอบปลูกต้นไม้ รักธรรมชาติ และสัตว์นานาชนิด ท่านชอบฟังมากกว่าพูด  ยิ้ม และเป็นกันเองไม่ถือตัว ท่านถือคติ “ความรักอยู่ที่ไหน พระเจ้าอยู่ที่นั่น”
 
ในโอกาสฉลองครบ 25 ปี  แห่งการเป็นพระสงฆ์  ในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม  ค.ศ. 1981 ขอพระเป็นเจ้าทรงโปรดให้เพียบพร้อมด้วยจตุพร คือ อายุ วรรณะ  สุขะ  พละ เพื่อปฏิบัติงานด้านพระศาสนาในประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าพัฒนาถาวรยิ่งๆ ขึ้นไป 
 
พระสังฆราชยอแซฟ บรรจง อารีพรรค ได้ปฏิบัติภารกิจในฐานะประมุขแห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์ เป็นเวลา 22 ปี  จึงขอลาพักเกษียณเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ในปี ค.ศ. 1998 ในขณะที่มีอายุ ได้ 72 ปี หลังจากลาพักเกษียณจากตำแหน่งประมุขสังฆมณฑลนครสวรรค์แล้ว ท่านได้พำนักอยู่ที่บ้านทรงไทย ภายในบริเวณสามเณราลัยจอห์น ปอล จังหวัดนครสวรรค์ และยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของสามเณราลัย และเป็นคุณพ่อวิญญาณารักษ์ของสามเณรด้วย  
 
และในโอกาสฉลอง 50 ปี การบวชเป็นพระสงฆ์ ณ วัดเซนต์นิโกลาส  พิษณุโลก  วันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2006  ท่านได้เทศน์มีใจความดังนี้  
 
 
พระเจ้าสถิตกับท่าน ...พี่น้องเราได้อ่านและฟังพระวาจาที่นักบุญยอห์นเป็นผู้นิพนธ์ขึ้น ใจความทั้งหมดพี่น้องคิดว่าสั้นๆ ใจความทั้งหมดนั้นคือรัก นักบุญยอห์น ที่เป็นนักบุญที่มีชีวิตสนิทกับพระเยซูเจ้าและพระเยซูเจ้าเองรักนักบุญยอห์น นักบุญยอห์น ก็รักพระเยซูเจ้า ฉะนั้นในความรู้สึกนึกคิด และในดวงใจของนักบุญยอห์นได้ให้แง่คิด จากพระเยซูเจ้า ฉะนั้นจากหนังสือที่ท่านเขียนในพระวรสารนั้น ได้ย้ำและตรอกย้ำ ชีวิตของเรากับพระเป็นเจ้านั้น เป็นเรื่องของความรัก ไม่ใช่สิ่งอื่น ก็แน่นอน จะว่าไปแล้วจะตอนเริ่มต้นก็ไม่ได้เพราะ ฉะนั้นความรักของพระเจ้านั้น รักตั้งแต่สร้างโลก ความรักของพระองค์นั้น ไม่มีต้นไม่มีปลาย ฉะนั้นนักบุญยอห์นได้นำเรื่องชีวิตของพระเยซูเจ้า นำมาเตือน มาสอน มาบอกเราว่า ในชีวิตของเรา   ไม่มีใดอื่นมากกว่าไปกว่าจากความรัก ฉะนั้นเราจะมีความสุขความเจริญ ความก้าวหน้า และความจำนน   ก็เพราะความรัก ซึ่งเป็นความจริงของชีวิตของเรา จะเป็นคริสตชนหรือไม่ก็ตาม บางทีคำพูดที่บอก อาจจะมากเกินไป เพราะเราคิดว่าพระเยซูเจ้ารักเรานิรันดร แต่เรารักบ้าง ไม่รักบ้าง รักของเราไม่ถาวร หรือยาวนานเกิน รักของเราไม่นิรันดร เมื่อเราฟังพระวรสารตอนนี้ แม้นเราแต่ละคนจะรักเหมือนอย่างที่พระเป็นเจ้าไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่พระเป็นเจ้า อย่างไรก็ดีสิ่งที่เราต้องทำคือ รัก และสิ่งที่ทำและต้องไม่ทำคือเกลียด เพราะฉะนั้นชีวิตของเราถ้ามีแต่รัก เกลียดไม่มี ก็มีความสุข แต่ในชีวิตของเรา เราจะเห็นความเกลียดชังมากกว่าความสุขเพราะเรารัก.
 
องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ยก พระคุณเจ้า ยอแซฟ บรรจง อารีพรรค พระสังฆราชกิตติคุณ แห่งสังฆมณฑลนครสวรรค์ สู่อ้อมพระหัตถ์ของพระองค์ เมื่อวันเสาร์ที่ 1 กันยายน 2012 เวลา 04:00 น. ณ บ้านพักผู้สูงอายุ บริเวณ อาสนวิหารนักบุญอันนา จ.นครสวรรค์ พิธีปลงศพ วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2012 พิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ ปลงศพ เวลา 10:30 น. ณ อาสนวิหารนักบุญอันนา พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ประธานในพิธี