-
Category: ต้นกำเนิด...เกิดตำนานสิ่งแรกในอดีต
-
Published on Friday, 13 May 2016 02:20
-
Written by หอจดหมายเหตุ
-
Hits: 2967
เมื่อ ๗๐-๘๐ ปีก่อนไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ นายเลื่อน พงษ์โสภณ ผู้มีฉายาว่า “เลื่อนกระดูกเหล็ก” นายเลื่อนเป็นคนเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่บ้านริมคลองรอบกรุง ย่านประตูสามยอด บิดามารดามีร้านขายเฟอร์นิเจอร์และมีโรงสีด้วยนายเลื่อนจึงสนใจเครื่องยนต์กลไกมาแต่เด็ก ส่วนฉายา "เลื่อนกระดูกเหล็ก” ก็เพราะเป็นนักบิดมอเตอร์ไซค์ชั้นแนวหน้าของยุค มีการประลองความเร็วกันเมื่อใด นายเลื่อนจะนำฮาร์เลย์เดวิดสันคู่ชีพลงชิงชัยด้วยทุกที และชนะทุกครั้งจนถ้วยเต็มบ้าน เพราะบิดอย่างไม่กลัวเจ็บกลัวตาย
นางสาวสยามหลังทำสาวใหม่
บิดาต้องการให้เรียนกฎหมาย แต่นายเลื่อนไปเรียนโรงเรียนนายร้อยทหารบก แต่ใกล้จะจบติดดาว พอดีมีประกาศรับสมัครทหารไปร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ ๑ ที่ยุโรปนายเลื่อนจึงลาออก สมัครไปรบด้วย
เมื่อสงครามสงบ ทางราชการให้ทหารอาสาที่สนใจเครื่องยนต์เรียนต่อที่ฝรั่งเศสได้ นายเลื่อน ฉวยโอกาสนี้ และสอบคัดเลือกได้เป็นอันดับ ๑ เข้าเรียนจนจบหลักสูตร
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ นายเลื่อนได้รับพระราชทานทุนส่วนพระองค์ รัชกาลที่ ๗ ให้ไปเรียนวิชาการบินที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา เป็นเวลา ๓ ปี และระหว่างเรียนนายเลื่อนกระดูกเหล็กยังไปรับจ้างแสดงการบิดผาดโผนจนเป็นที่ชื่นชอบของคนดู ตระเวนไปแสดงใน หลายรัฐ จนสามารถเก็บเงินซื้อเครื่องบินแบบเดี่ยวกับที่ใช้แสดงกลับมาเมืองไทยด้วย ตั้งชื่อให้ว่า “MISS SIAM” หรือ “นางสาวสยาม”
เมื่อนายเลื่อนกลับมา ไทยเรามีกรมอากาศยานแล้ว ในสังกัดกองทัพบก และซื่อเครื่องบินจากฝรั่งเศสมา ๘ เครื่อง พร้อมส่งนักบินไปฝึกกับบริษัทผู้จำหน่ายมาครบจำนวน อีกทั้งนายเลื่อนไม่ได้รับความเชื่อถือ จึงหางานนักบินทำไม่ได้
ด้วยเหตุนี้นายเลื่อนจึงหาทางโชว์ฝีมือให้ประจักษ์สักครั้ง นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ขอนำ “นางสาวสยาม” บินเบิกฟ้าจากสยามไปฮ่องกง ซึ่งก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ อนุญาต ทั้งรับสั่งว่าเป็นความคิดที่ดีมาก พร้อมพระราชทานพรให้นายเลื่อนด้วย
กระทรวงการต่างประเทศให้นายเลื่อนกำหนดแผนการบินว่าจะออกเดินทางเมื่อใด ผ่านไปทางไหน เพื่อจะได้แจ้งให้ทูตสยามในเมืองต่างๆ อำนวยความสะดวก ซึ่งนายเลื่อนได้แจ้งว่าจะทำการบินในระยะทาง ๑,๔๐๐ ไมล์ ออกจากสนามบินดอนเมือง วันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ แวะไปตลอดทางตั้งแต่นครราชสีมาเป็นครั้งแรก ผ่านเวียดนาม จีน ถึงฮ่องกงในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ค้าง ๓ คืนแล้วบินกลับในเส้นทางเดิม กลับมาถึงดอนเมืองในวันที่ ๓ กรกฎาคม
การเดินทางไปในครั้งนี้ แม้ “นางสาวสยาม” จะมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารอีก ๑ ที่ แต่ก็ไม่มีใครไปด้วย ทั้งยังไม่มีอาวุธ กล้องถ่ายภาพยนตร์ หรือภาพนิ่ง อันอาจจะใช้เป็นเครื่องมือจารกรรม เพื่อไม่ให้มีปัญหาจากหวาดระแวง
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นายเลื่อนได้รับการสนับสนุนจากสโมสรสามัคคีจีนสยาม เรี่ยไรจากสมาคมและมิตรสหาย มีตั้งแต่รายละ ๒๐๐ บาท จนถึง ๓ บาท รวมกันได้ ๒,๔๗๐ บาท
ในระยะนั้นมีนักบินพลเรือนของชาติต่างๆ ในยุโรป พยายามสร้างเกียรติประวัติในการบินข้ามประเทศเช่นนี้ บ้างก็บินมาถึงจีน แต่หลายคน ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ตกในป่า ตกในทะเล ผจญอุปสรรคกันต่างๆ ซึ่งนายเลื่อนก็พบอุปสรรคเช่นกัน นอกจากเผชิญกับความแปรปรวนของอากาศแล้ว ที่รุนแรงที่สุดก็ตอนข้ามจากมาเก๊าไปฮ่องกง เรือรบจีนเกิดเข้าใจผิด ยิง “นางสาวสยาม” ถูกลำตัวที่เป็นผ้าทะลุ เคราะห์ดีที่ไม่ถูกโครงเหล็กหรือตัวนักบินแต่ก็ต้องร่อนลงฉุกเฉินที่เกาะลองมูนจมลงไปในโคลนแต่นายเลื่อนกระดูกเหล็กถนัดด้านช่างอยู่แล้ว จึงซ่อมแซมจนบินต่อได้
ความสำเร็จของนายเลื่อน ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยฟุ้งกระจายไปในนานาประเทศ แม้จะเป็นเพียงประเทศเล็กๆ ยังไม่มีแม้แต่กองทัพอากาศ แต่นักบินพลเรือนคนหนึ่งก็อาจหาญบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปอย่างโดยเดี่ยว จนประสบความสำเร็จ
จึงถือได้ว่า “นางสาวสยาม” เป็นเครื่องบินพลเรือนลำแรกของไทย และ นายเลื่อน พงษ์โสภณ ก็เป็นนักบินพลเรือนคนแรกของไทยด้วย
ต่อมานายเลื่อนเข้าทำงานกับบริษัท เดินอากาศ จำกัด ไปเป็นนายสนามบินโคราช จนได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โคราช ๔ สมัย เป็นรัฐมนตรี ลอยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมถึง ๖ รัฐบาล และได้รับพระราชทานยศเป็น นาวาอากาศเอก.