องค์ที่ 93 สมเด็จพระสันตะปาปานักบุญเปาโล ที่ 1 (PopeSt. Paul I ค.ศ.757-767)

 

สมเด็จพระสันตะปาปานักบุญเปาโล ที่ 1

(Pope St. Paul I  ค.ศ. 757-767)
 
พระสันตะปาปานักบุญเปาโลที่ 1 เป็นน้องชายของพระสันตะปาปาสเตเฟนที่ 2 พระองค์เกิดที่โรมและเช่นเดียวกับพี่ชาย พระองค์ได้รับการศึกษาที่พระราชวังลาเตรัน พระสันตะปาปาซาคารีได้บวชท่านให้เป็นสังฆานุกร และระหว่างที่พี่ชายเป็นพระสันตะปาปาท่านได้รับหน้าที่สำคัญในการบริหารพระศาสนจักรในยุคนั้น ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา วันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 757
 
หน้าที่สำคัญในสมัยปกครองของพระองค์คือ การบริหารรัฐต่างๆ ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา ซึ่งขยายเพิ่มมากขึ้นเนื่องจาก กษัตริย์เปแปงได้มอบเป็นของขวัญแด่พระสันตะปาปาหลักการบริหารของพระองค์ เป็นผลดีอย่างยิ่งและสามารถดูแลเขตปกครองนี้เรื่อยมาหลายร้อยปี พระองค์ได้ใช้ความสามารถในการปกครอง ทำให้พวกลอมบาร์ดไม่กล้าโจมตีรัฐต่างๆ ในความปกครองของพระสันตะปาปา (เนื่องจากกลัวอิทธิพลของกองทัพแฟรงค์) พวกเจ้านายต่างๆ ของโรมเองก็ไม่กล้าแสดงปฏิกิริยาต่อต้านพระสันตะปาปานัก เนื่องจากความเด็ดขาดของพระองค์นั่นเอง พระองค์มักจะใช้เวลาในตอนกลางคืนเมื่อว่างเว้นจากภารกิจแล้ว เสด็จเยี่ยมนักโทษในที่คุมขังและร่วมภาวนาพร้อมกับพวกเขา พระองค์ยังทรงช่วยหลายคนให้ได้รับอิสรภาพจากที่คุมขัง พระองค์สิ้นพระชนม์ที่มหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพงเมือง วันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 767 หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาแย่งอำนาจกัน ทำให้มีพระสันตะปาปาซ้อนกัน 2 องค์ คือ พระสันตะปาปาคอนสแตนติน และพระสันตะปาปาฟิลิป
 
ตำนานเล่าเรื่องราวความเป็นมาดังนี้ ในปลายสมัยพระสันตะปาปาเปาโลที่ 1 นั้นพวกขุนนางและเจ้านายไม่พึงพอใจพระองค์นัก เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว ดยุคโตโต้แห่งเนปี (Nepi) ได้ใช้อำนาจแต่งตั้งน้องชายคือ คอนสแตนติน ขึ้นเป็นพระสันตะปาปา โดยจัดให้บวชเป็นรองสังฆานุกร, สังฆานุกร แล้วจึงอภิเษกเป็นพระสันตะปาปาเวลาเดียวกันคือ วันที่ 5 กรกฎาคม ที่พระมหาวิหารนักบุญเปโตร  โดยมีทหารล้อมรอบพิธี เพื่อแน่ใจว่าบรรดาพระสังฆราชทั้งหลายจะไม่คัดค้านอำนาจของดยุกโตโต้ มีหลายคนไม่เห็นด้วย และแจ้งไปยังกษัตริย์เปแปงขอให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ แต่ทางกษัตริย์ก็ไม่ได้โต้ตอบแต่อย่างใด ฝ่ายกองทหารลอมบาร์ดถือเป็นโอกาสลุกฮือขึ้นต่อต้านเกิดการต่อสู้กัน ดยุกโตโต้ถูกทหารลอมบาร์ดฆ่าตาย วันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 768 พระสันตะปาปาคอนสแตนตินต้องหลบหนีไปซ่อนตัวที่มหาวิหารลาเตรันเพื่อเอาชีวิตรอด ขณะที่อยู่ในภาวะหัวเลี้ยวหัวต่อนี้เอง ผู้มีอำนาจอีกสายหนึ่งก็คิดจะแย่งอำนาจอีกวอลดิเปิร์ด  (พระสงฆ์) ได้ร่วมมือกับพวกลอมบาร์ดหวังจะยึดอำนาจแต่ก็ต้องหาหุ่นเชิดขึ้นมา ในที่สุดได้ตกลงใจเลือกฟิลิปซึ่งเป็นนักพรตในอาราม โดยทหารลอมบาร์ดนำท่านออกมาจากอารามและแต่งตั้งให้เป็นพระสันตะปาปา ในคืนวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 768 ต่อมาเมื่อพวกเขาเห็นว่าแผนการนี้ไม่มีผู้ใดสนับสนุน พวกทหารก็พานักพรตฟิลิปกลับไปอารามในตอนสายของวันต่อมา และบอกว่าท่านไม่ได้เป็นพระสันตะปาปาอีกแล้ว จากนั้นพวกเขาก็กลับไป นักพรตฟิลิปผู้น่าสงสารงุนงงเป็นเวลานานถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน ส่วนพระสันตะปาปาคอนสแตนตินเมื่อหมดผู้คุ้มครองแล้ว พวกประชาชนได้ควบคุมตัวพระองค์มาพิพากษาถอดจากตำแหน่งและจองจำในคุก พวกทหารยามควักพระเนตรของพระองค์ออก พระองค์ต้องทนทุกข์ด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลที่พระเนตรและถูกทรมาน จากนั้นก็ถูกนำตัวมาพิพากษาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในราวเดือนเมษายน ค.ศ. 769 ถูกตัดสินให้จำคุกตลอด และคงถึงแก่มรณภาพในคุกนั่นเอง วันเวลาแน่นอนไม่มีบันทึกไว้ นับเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าเศร้าอีกครั้งหนึ่ง