องค์ที่ 176 สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ ที่ 3 (Pope Innocent III ค.ศ.1198-1216)

 
สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ ที่ 3

 (Pope Innocent III ค.ศ. 1198-1216)
 
พระองค์เป็นพระสันตะปาปาที่สำคัญที่สุดองค์หนึ่งในยุคกลาง เกิดที่กาวิญาโน กัสแตล แคว้นคัมปาเนีย ชื่อเดิม โลแทร์  แห่งเซญี  เป็นบุตรในตระกูลของท่านเคานต์เซญี และเป็นหลานของพระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 3 เมื่อจบการศึกษาจากปารีสและโบโลญาแล้ว ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระคาร์ดินัลสังฆานุกร โดยพระสันตะปาปาลุงของท่านเอง ในปี ค.ศ. 1190 เนื่องจากตระกูลของท่านมีปัญหากับพระสันตะปาปาเซเลสทีน ที่ 3 หลายคนจึงไม่คิดว่าท่านจะมีอนาคตในสันตะสำนัก และท่านเองก็ไม่ได้คิดเช่นกัน ท่านอุทิศชีวิตให้กับการศึกษาและเขียนหนังสือมากมายเกี่ยวกับเทววิทยา จนเป็นที่ยอมรับว่าท่านเป็นผู้ทรงความรู้ยิ่งคนหนึ่ง
 
โดยไม่คาดคิดบรรดาพระคาร์ดินัล   เลือกท่านด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ให้ดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1198  วันเดียวกันกับที่พระสันตะปาปาเซเลสทีนสิ้นพระชนม์ เมื่อได้รับเลือกนั้นพระองค์มีอายุเพียง 38 ปี เท่านั้น จึงต้องได้รับการบวชให้เป็นพระสงฆ์และอภิเษกในเวลาต่อมา (ไม่มีหลักฐานวันอภิเษก) เมื่อได้เป็นพระสันตะปาปาแล้วพระองค์ได้ประกาศจุดยืนของพระสันตะปาปา ว่าเป็นผู้สืบตำแหน่งพระคริสต์ (รองพระคริสต์) อยู่สูงกว่ามนุษย์ใดๆ แต่ต่ำพระเจ้า พระองค์ให้ความสำคัญการเป็นผู้นำฝ่ายจิตของพระสันตะปาปาและพยายามแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในเขตที่ใกล้ตัว คือ ที่โรมและรัฐพระสันตะปาปาเท่านั้น (ไม่พยายามไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของกษัตริย์อื่นๆ) พระองค์ได้ปฏิรูประบบการบริหารสันตะสำนักใหม่ ทรงลังเลใจที่จะส่งกองทหารไปทำสงครามครูเสดกับพวกหัวรุนแรงอัลบีเจนเซียนที่ฝรั่งเศส ที่กระทำรุนแรง ขนาดจับผู้แทนพระสันตะปาปาฆ่าทิ้ง พระองค์ได้สนับสนุนคณะนักพรต (เท้าเปล่า) โดมินิกันและฟรันซิสกันอย่างเต็มที่ แต่ในที่สุดก็ให้คำรับรองสงครามครูเสด ครั้งที่ 4   ซึ่งต่อมาแทนที่จะเดินเรือไปสู้รบที่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์  กลับมุ่งไปที่คอนสแตนติโนเปิล (โดยการนำของเวเนเซียน  และได้เข้าโจมตีโค่นบัลลังก์ของกษัตริย์ไบเซนไทน์ อัศวินคริสเตียนของพระองค์ได้ฆ่าศัตรูคริสเตียนด้วยกันอย่างนองเลือด พระสันตะปาปาอินโนเซนต์จึงถูกบังคับให้รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ หวังว่าจากเหตุการณ์นี้ การรวมกันใหม่ระหว่างโรมและคอนสแตนติโนเปิลจะเป็นไปได้ และพระองค์ได้แต่งตั้งผู้แทนจากโรมให้ประจำที่คอนสแตนติโนเปิล แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็เห็นชัดเจนว่า ความบาดหมางนั้นมากเกินกว่าจะผสานรอยร้าวได้ ชาวไบเซนไทน์ไม่ยอมอภัยในความผิดนี้ พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ ที่ 3 พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความพยายามในการบริหารบ้านเมือง  แม้พระองค์พยายามปฏิเสธที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองที่ใด นอกจากของสันตะสำนัก พระองค์ใช้อำนาจพระสันตะปาปาลงโทษกษัตริย์ที่ทำบาปหลายองค์ ที่สำคัญอีกครั้ง คือ พระองค์ทรงประกาศ ว่ากฎหมายหลักของอังกฤษ (Magna Carta) นั้นเป็นโมฆะ ถือว่าเป็นกฎหมายกำหนดโดยบรรดาขุนนางและบารอนทั้งหลายของพระเจ้ายอห์น แห่งอังกฤษ อย่างไม่มีหลักเกณฑ์ ที่พระองค์ทรงประกาศเช่นนี้ก็เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างอังกฤษและสันตะสำนัก ในปี ค.ศ. 1215 ที่ว่าพระสันตะปาปามีสิทธิ์ในที่ดินที่เป็นของกษัตริย์อังกฤษ
 
นอกนั้นพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ยังเป็นผู้เรียกประชุมสังคายนาลาเตรัน ครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ. 1215 และสั่งใช้ชาวยิวและชาวมุสลิมสวมเสื้อผ้าที่ทำให้ความแตกต่างว่าพวกเขาไม่ใช่คริสตชน พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1216